วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556

ห่างจากยาที่เป็นสารเคมีได้ ด้วยการทานผักผลไม้






http://www.thairath.co.th/media/content/2011/10/17/210031/hr1667/630.jpg 



 หน่อไม้ฝรั่ง (แอสพารากัส)
        ผักที่มีหน้าตาแปลกเฉพาะตัว ลักษณะเป็นหน่อสีเขียวหรือสีขาว สีขาวนิยมรับประทานสด ๆ ส่วนสีเขียวนิยมนำไปประกอบอาหาร สามารถเก็บกินได้ตลอดทั้งปี หาซื้อได้ง่าย กรอบอร่อย นำไปทำทำอาหารได้หลากหลาย
       กินเป็นยา : ใน หน่อไม้ฝรั่งมีโฟเลตอยู่มาก มีความจำเป็นต่อความสมบูรณ์ของทารกสำหรับคุณแม่ครรภ์ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งที่ปอดได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบของกำมะถันเป็นยาขับปัสสาวะได้ดีตัวหนึ่งเหมาะ อย่างยิ่งกับผู้ป่วยที่เป็นโรคขัดเบา และยังใช้รักษาโรคหลายชนิด เช่น โรคเส้นประสาทอักเสบ โรครูมาติซึม และบรรเทาอาการปวดฟันได้ด้วย

อะโวคาโด

        
ผลไม้จากถิ่นอเมริกา เม็กซิโก กัวเตมาลา และหมู่เกาะเวสอินดีส ที่หาได้ง่ายในบ้านเรา แต่ไม่ค่อยนิยมกินกันมากนัก เนื่องจากมีรสชาติและกลิ่นสู้ผลไม้ชนิดอื่น ๆ ไม่ได้ แต่ประโยชน์ของอะโวคาโดนั้น เรียกว่ามากมายจนต้องหันกลับมารักกันเลยทีเดียว
       
กินเป็นยา : มี วิตามินบีที่ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ปากนกกระจอก วิตามินซีช่วยป้องกันไข้หวัด โรคเลือดออกตามไรฟัน และโดยเฉพาะวิตามินอีซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยในการปกป้องเซลล์ร่างกายจากมลพิษทาง อากาศ น้ำ และอาหาร สามารถป้องกันโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ และโรคหัวใจ และนอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งอีกด้วย


บร็อกโคลี่

        
รสชาติหวาน กรอบ สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด และอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย
       
กินเป็นยา : บร็อก โคลี่มีสารเบต้า-แคโรทีน ที่ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระในร่างกายและยังช่วยให้ผนังเส้นเลือดแข็งแรง มีสารซัลโฟราเฟน (sulforaphane) ซึ่งเป็นสารป้องกันโรคมะเร็ง และยังช่วยป้องกันโรคหัวใจ ความดันโลหิต และโรคอัลไซเมอร์ได้ดี

กะหล่ำปลี

       
ผักรูปร่างกลมที่เกิดจากใบที่อัดแน่นจนมีลักษณะเป็นหัวน่ากิน สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย หรือจะกินดิบ ๆ ก็ได้ ไม่ว่าจะสีเขียว สีขาว หรือสีม่วง ก็มีประโยชน์มากมายทั้งสิ้น
       
กินเป็นยา : มี สารพิเศษเอสเมธิลเมโธโอนินที่สามารถรักษาโรคกะเพาะอาหาร และมีสารกอยโตรเจนที่ช่วยให้ร่างกายทำไอโอดีนไปใช้ช่วยป้องกันโรคคอหอยพอก นอกจากนั้นยังมีสารต้านมะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งลำไส้
เกรปฟรุต
         เติบโตอยู่ในผลไม้กระกูลส้ม เป็นญาติสนิทของส้มโอ แต่เนื้อของเกรปฟรุตมีสีแดง รสชาติอมเปรี้ยวนิด ๆ เหมาะสำหรับกินลังมื้อเช้าจะช่วยเพิ่มความสดชื่นก่อนไปทำงานได้ดี
       
กินเป็นยา : สาร เพกตินที่มีอยู่ในเกรปฟรุต ซึ่งเป็นไฟเบอร์ประเภทหนึ่งสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดก่อนที่ จะจับตัวเป็นก้อนไปขวางทางเดินในหลอดเลือด นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยป้องกันไม่ให้สารพิษหรือโลหะ หนักทำอันตรายต่อร่างกาย และยังช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็งกระเพราะอาหารและมะเร็งตับอ่อน

กีวี

        เป็นผลไม้ประเภทไม้เลื้อยเถา นิยมปลูกมากในประเทศนิวซีแลนด์ แต่ในความเป็นจริงแล้วมีถิ่นกำเนิดมาจาก ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ในประเทศไทยมีการปลูกมากในจังหวัดเชียงใหม่ ผลมีผิวสีน้ำตาล มีขน เนื้อสีเขียว รสชาติหวาน มีกลิ่นหอม แถมยังมีวิตามินซีสูงอีกด้วย
       
กินเป็นยา : กีวี มีค่าดัชนี ไขมัน และแคลอรีในระดับต่ำ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาโรคเบาหวานเป็นอย่างยิ่ง ตลอดจนผู้ที่ต้องการคุมน้ำหนักหรือมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว วิตมินซีในกีวียังช่วยให้ร่างกายมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหาร ความอึดอัดในช่องท้อง ท้องผูก และเกิดความล่าช้าในการส่งถ่าย
ส้ม

       
ผลไม้ที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันดี มีให้เลือกมากมายหลายสายพันธุ์ รสชาติหวานอร่อย กินง่าย ทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องของวิตามินซี นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม วิตามินเอ บี โพแทสเซียม แคลเซียม ใยอาหาร ฟอสฟอรัส เหล็ก และเบต้าแคโรทีน
       
กินเป็นยา : ใน ส้มมีสารฟลาโวนอยด์ ช่วยป้องกันการอักเสบ และเลือดจับตัวเป็นก้อน มีคอลลาเจน ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายให้แผลหายเร็วขึ้น วิตามินซีและเบต้าแคโรทีน ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน และมีคุณสมบัติช่วยล้างพิษในร่างกาย ลดความเครียด ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
พีช

         คือชื่อเรียกตามภาษาอังกฤษ แต่บางคนอาจจะรู้จักมักจี่กันในชื่อจีนคือลูกท้อ มีสีเหลืองอมส้ม รสชาติหอมหวาน
        
กินเป็นยา : ใน พีชมีวิตามินเอและสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้าคริบโตแซนทิน ป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลาย บำรุงหัวใจและกระเพาะอาหาร ยังมีเกลือแร่โรบอนที่เป็นตัวช่วยให้สมองของเรากระฉับกระเฉงและกระปรี้ กระเปร่า มีพลังค่ะ

มะเขือเทศ

        ผักสีแดงสด ที่มีประโยชน์มากกว่านำมามาส์กผิวหน้า สามารถนำมาใช้ปรุงอาหารได้หลายรูปแบบหรือแต่งเติมให้มื้ออาหารมีสีสันมาก ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังนำมาคั้นเป็นน้ำมะเขือเทศดื่ม หรือทำเป็นซอสมาปรุงรส อาหารก็ได้
       
กินเป็นยา : ไล โคปีนเป็นสารสำคัญที่พบได้ในผลมะเขือเทศ เป็นสารประกอบในกลุ่มแคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่ง ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับอ่อน มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งทวารหนัก มะเร็งคอหอย มะเร็งช่องปาก มะเร็งเต้านม เป็นต้น

แอปเปิ้ล

       
ผลไม้ที่มีรสชาติหอมหวาน มีให้เลือกกินถึง 4 สี คือสีแดง สีเขียว สีเหลือง และสีชมพู สามารถกินได้ทั้งเปลือก ซึ่งประโยชน์ของแอปเปิ้ลนั้นไม่ได้มีแต่ในเนื้อเพียงอย่างเดียว แต่ในเปลือกก็มีประโยชน์มากมายเช่นกัน
       
กินเป็นยา : ใน เปลือกแอปเปิ้ลมีสารฟลาโนอยด์สูงมาก ซึ่งมีหน้าที่ในการล้างพิษออกจากร่างกาย และยังช่วยป้องกันอนูมูลอิสระอีกด้วย ที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งลำไส้

องุ่น

       
เป็นผลของไม้เลื้อยชนิดหนึ่ง ผลมีรสหวานกินง่าย ในบ้านเรานิยมปลูกอยู่ 2 สายพันธุ์ ก็คือ พันธุ์ไวท์มะละกา ผลกลมมีสีเหลืองอมเขียวและผลยาว รสหวานแหลม และ พันธุ์คาร์ดินัล ผลกลมค่อนข้างใหญ่ มีสีแดงหรือม่วงชมพู รสหวาน กรอบ เปลือกบาง
       
กินเป็นยา : องุ่น มีสารอาหารที่สำคัญที่ดีคือน้ำตาลและสารอาหารจำพวกกรดอินทรีย์ เช่น น้ำตาลกลูโคส น้ำตาลซูโคส วิตามินซี เหล็กและแคลเซียม มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ แก้กระหาย ขับปัสสาวะ และช่วยฟื้นกำลังคนที่ร่างกายผอมแห้ง แก่ก่อนวัยและไม่มีเรี่ยวแรง
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น